เสาเข็มเจาะ ( bored pile ) คือ อะไร
เสาเข็มเจาะ ( BORED PILE )
หนึ่งในโครงสร้างที่เป็นรากฐานสำคัญในงานอุตสาหกรรมการก่อสร้างทุกประเภท เป็นเสาเข็มคอนกรีตที่ใช้วิธีการเจาะลงไปใต้ดินตามขนาดและความลึกที่เหมาะสม จากนั้นเทคอนกรีตลงไปในหลุมเจาะ เมื่อคอนกรีตแห้งสนิทก็จะเกิดเป็นรูปเสาเข็มนั้น ๆ โดยทำหน้าที่หลัก คือ รับน้ำหนักของตึกหรืออาคารให้สามารถตั้งอยู่ได้อย่างมั่นคง นอกจากนั้นการเลือกใช้เสาเข็มเจาะ ยังช่วยป้องกันการพังทลายของชั้นดินบริเวณหลุมเจาะได้อีกด้วย สำหรับจุดเด่นอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้คนหันมาเลือกใช้เสาเข็มเจาะกันอย่างแพร่หลาย นั่นก็คือ มีขั้นตอนการติดตั้งที่ง่ายและสะดวก ส่งผลให้ประหยัดเวลาในการทำงานมากขึ้น ,เหมาะสำหรับงานก่อสร้างทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ,สามารถติดตั้งเสาเข็มเจาะได้แม้อยู่ในพื้นที่ที่กำจัด และยังสามารถช่วยลดมลภาวะทางเสียงและแรงสั่นสะเทือนระหว่างการติดตั้งได้อย่างดีเยี่ยม
ด้วยจุดเด่นทั้งหลายเหล่านี้ ส่งผลให้เสาเข็มเจาะเป็นที่นิยมในทุก ๆ ประเภทอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็น บ้านพักที่อยู่อาศัย ,ตึกอาคารสำนักงาน ,ห้างสรรพสินค้า ,คอนโดมิเนียม ,อพาร์ทเมนต์ หรือสถานที่ต่าง ๆ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เป็นต้น โดยขนาดและจำนวนจะขึ้นอยู่กับรูปแบบของตึกอาคารและสภาพแวดล้อมบริเวณพื้นที่นั้น ๆ แนะนำให้เลือกบริษัทรับผลิตเสาเข็มคอนกรีตที่น่าเชื่อถือ และมีมาตรฐาน เพราะความมั่นคงและความปลอดภัยในการก่อสร้าง เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง




เสาเข็มเจาะมีกี่ประเภท
เสาเข็มเจาะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ประเภทที่ 1 : เสาเข็มเจาะแบบแห้ง (Dry-process bored pile)
เป็นเสาเข็มเจาะที่ใช้การหล่อคอนกรีต โดยไม่ใช้สารของเหลวใด ๆ เป็นตัวกลางระหว่างการเจาะ สำหรับเสาเข็มเจาะแบบแห้ง ส่วนใหญ่จะเรียกเป็น ” เสาเข็มเจาะขนาดเล็ก ” ในพื้นที่กรุงเทพฯ จะนิยมลึกไม่เกิน 25 เมตร และในพื้นที่ต่างจังหวัดจะนิยมลึกไม่เกิน 20 เมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเนื้อดินบริเวณนั้น ๆ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการกำหนดช่วงความลึกที่เหมาะสม ซึ่งขั้นตอนการทำงานของเสาเข็มเจาะแบบแห้งจะเริ่มต้นด้วยการตอกปลอกเหล็กไปจนถึงชั้นดินแข็ง การทำเช่นนี้จะช่วยให้ดินไม่พังทลายลงมา จากนั้นค่อย ๆ ตักดินออกจนถึงช่วงความลึกที่ได้กำหนดไว้ ใส่เหล็กข้ออ้อยลงไปในหลุม และเทคอนกรีตลงไป เมื่อเสร็จสิ้นแล้วให้ถอนปลอกเหล็กออกมา การเลือกเสาเข็มเจาะแบบแห้งจะเหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ชุมชน รายล้อมไปด้วยบ้านหรืออาคาร เพราะเสาเข็มเจาะจะไม่ส่งผลกระทบในเรื่องของฝุ่น แรงสั่นสะเทือนระหว่างการก่อสร้างมากนัก ไม่เหมือนกับเสาเข็มตอก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่านั่นเอง
ประเภทที่ 2 : เสาเข็มเจาะแบบเปียก (Wet – process bored pile)
สำหรับข้อแตกต่างระหว่างเสาเข็มเจาะแบบแห้งและเสาเข็มเจาะแบบเปียก ก็คือ เสาเข็มเจาะแบบเปียกจะใช้การหล่อคอนกรีต โดยเติมสารละลายของเหลวอย่างเบนโทไนท์เข้าไปในขั้นตอนการเจาะเสาเข็ม ส่งผลให้คอนกรีตอัดตัวได้แน่นขึ้น ส่วนใหญ่จะเรียกเป็น ” เสาเข็มเจาะขนาดใหญ่ ” แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถือได้ว่าเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความละเอียดเป็นอย่างมาก แนะนำให้เลือกใช้บริการบริษัทผลิตเสาคอนกรีตที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรงจะดีที่สุด ในส่วนของขั้นตอนการทำงานเสาเข็มเจาะแบบเปียก จะเหมือนกันกับแบบแห้ง ต่างกันตรงที่เมื่อได้ทำการเจาะดินลงไปจนถึงชั้นดินที่เริ่มมีน้ำไหล จะผสมสารละลายเบนโทไนท์เข้าไปทันที ทั้งนี้ก็เพื่อเคลือบผิวดินและป้องกันไม่ให้ดินทลายลงมา ซึ่งสารละลายเบนโทไนท์จะทำหน้าที่ยึดเกาะและประสานเนื้อดินให้เข้ากัน จุดเด่นของเสาเข็มเจาะแบบเปียกคือ สามารถเจาะลงลึกได้มากกว่าหนึ่งร้อยเมตร ที่สำคัญสามารถรองรับน้ำหนักตึกหรืออาคารได้มากกว่าแบบแห้ง ดังนั้นจึงเหมาะกับตึกหรืออาคารขนาดใหญ่ที่มีจำนวนหลายชั้น


ขอบคุณรูปภาพ เข็มเจาะขนาดใหญ่ จาก บริษัท SEAFCO





ขนาดของเสาเข็มเจาะ
เสาเข็มเจาะแบบแห้ง (Dry-process bored pile)
- เส้นผ่านศูนย์กลาง 35 ซม.
- เส้นผ่านศูนย์กลาง 40 ซม.
- เส้นผ่านศูนย์กลาง 50 ซม.
- เส้นผ่านศูนย์กลาง 60 ซม.
เสาเข็มเจาะแบบเปียก (Wet-process bored pile)
- เส้นผ่านศูนย์กลาง 40 ซม.
- เส้นผ่านศูนย์กลาง 50 ซม.
- เส้นผ่านศูนย์กลาง 60 ซม.
- เส้นผ่านศูนย์กลาง 80 ซม.
- เส้นผ่านศูนย์กลาง 100 ซม.
- เส้นผ่านศูนย์กลาง 120 ซม.
- เส้นผ่านศูนย์กลาง 150 ซม.
- เส้นผ่านศูนย์กลาง 200 ซม

ข้อดี ข้อเสีย ของเสาเข็มเจาะ
ข้อดีของเสาเข็มเจาะ
การเลือกใช้เสาเข็มเจาะมีข้อดีหลายประการที่เหมาะสมกับงานก่อสร้างหลายประเภท มาดูกันว่าข้อดีของการใช้เสาเข็มเจาะคืออะไรบ้าง:
1. ลดการสั่นสะเทือนและเสียงรบกวน
เสาเข็มเจาะเป็นวิธีที่ไม่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนและเสียงดังรบกวนมากเมื่อเทียบกับการตอกเสาเข็ม ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมในพื้นที่ที่มีอาคารอยู่ใกล้กัน เช่น ในเขตชุมชนที่มีสิ่งปลูกสร้างหนาแน่น หรือใกล้กับอาคารที่ต้องการความระมัดระวังในการก่อสร้าง
2. เหมาะกับพื้นที่จำกัด
ในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ เช่น พื้นที่ขนาดเล็กหรือพื้นที่ที่ใกล้กับอาคารอื่น การใช้เสาเข็มเจาะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะสามารถทำการเจาะเสาเข็มในที่แคบได้ โดยไม่ต้องใช้พื้นที่มากในการติดตั้งอุปกรณ์
3. รองรับน้ำหนักได้ดี
เสาเข็มเจาะสามารถรองรับน้ำหนักได้มากกว่าเสาเข็มตอก เนื่องจากสามารถปรับขนาดของเสาเข็มให้เหมาะสมกับโครงการที่ต้องการรองรับน้ำหนักมาก เช่น อาคารสูง โครงสร้างขนาดใหญ่ หรืออาคารที่มีพื้นที่ฐานรากจำกัด
4. เหมาะสำหรับงานต่อเติมและปรับปรุงฐานราก
เสาเข็มเจาะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการต่อเติมและปรับปรุงฐานรากเดิมของอาคารหรือโครงสร้างที่ต้องการเพิ่มความแข็งแรง เช่น ในโครงการที่ต้องการปรับปรุงหรือเสริมฐานรากของอาคารเดิม
ข้อเสียของเสาเข็มเจาะ
แม้ว่าการใช้เสาเข็มเจาะจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อเสียบางประการที่ต้องพิจารณาเช่นกัน:
1. ต้นทุนสูง
การทำเสาเข็มเจาะมักมีต้นทุนสูงกว่าการใช้เสาเข็มตอก เนื่องจากต้องใช้เวลาและเครื่องมือเฉพาะในการดำเนินงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดเตรียมโครงเหล็กและคอนกรีตที่มีคุณภาพสูง
2. ใช้เวลานาน
กระบวนการเจาะเสาเข็มและการเทคอนกรีตต้องใช้เวลาในการดำเนินการนานกว่าการติดตั้งเสาเข็มสำเร็จรูป ซึ่งอาจทำให้โครงการก่อสร้างต้องใช้เวลานานขึ้น
3. ต้นทุนเพิ่มขึ้นตามขนาดโครงเหล็ก
หากต้องการเพิ่มความแข็งแรงของเสาเข็มโดยการใช้โครงเหล็กที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ทางบริษัท เคเอ็น2002โปรคอนกรีต มีให้บริการเข็มเจาะแบบแห้ง ขนาด diameter 35 , 40 , 50 cm สนใจติดต่อสอบถาม ได้ที่ ติดต่อ KNCON